ทีมวิศวกรด้านระบบอีเมลองค์กร โดยเทคโนโลยีแลนด์

ฟีเจอร์ Compliance, Data Governance และ eDiscovery ในแผน Enterprise

ทำไมฟีเจอร์เหล่านี้ถึงสำคัญสำหรับธุรกิจ Enterprise

ในยุคที่ข้อมูลคือทองคำ แต่ก็เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือถูกเรียกร้องทางกฎหมาย การมีเครื่องมือ Compliance ที่ดีเหมือนมีทีมกฎหมายส่วนตัว Microsoft 365 Enterprise (E3 และ E5) มาพร้อมฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อช่วย:

  • ลดความเสี่ยง: ป้องกันข้อมูลสูญหายหรือถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย: เช่น PDPA ในไทย หรือ GDPR ในยุโรป ช่วยให้คุณพร้อมรับมือการตรวจสอบ
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: จัดการข้อมูลจำนวนมากได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องจ้างคนเพิ่ม

การใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและเงินได้เยอะโดยเฉพาะใน E5 ที่มีเครื่องมือขั้นสูงกว่า

Compliance ใน Microsoft 365 Enterprise: ปกป้องข้อมูลให้ถูกต้องตามกฎ

Compliance ใน Microsoft 365 (หรือ Microsoft Purview ในปัจจุบัน) คือชุดเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจคุณจัดการความเสี่ยงและปฏิบัติตามกฎระเบียบได้แบบครบวงจร มันครอบคลุมการตรวจสอบข้อมูล การป้องกันการรั่วไหล และการรายงาน

ฟีเจอร์หลักๆ ในแผน Enterprise:

  • Data Loss Prevention (DLP): ป้องกันข้อมูล เช่น หมายเลขบัตรเครดิตหรือข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ให้ถูกแชร์ออกไปโดยไม่ตั้งใจ รองรับ Exchange, SharePoint, OneDrive, Teams และ endpoint ใน E5
  • Information Protection: ใช้ sensitivity labels เพื่อจัดหมวดข้อมูลอัตโนมัติ และเข้ารหัสไฟล์สำคัญ
  • Compliance Manager: แผนที่แสดงคะแนนความสอดคล้องกับกฎหมายกว่า 200 รายการ ช่วยให้คุณเห็นช่องโหว่และแก้ไขได้ทันที (มีใน E3/E5 แต่ E5 มี insights ขั้นสูงกว่า)

เปรียบเทียบ E3 vs E5: E3 มีพื้นฐานดี เช่น DLP พื้นฐานและ retention policies แต่ E5 เพิ่ม Communication Compliance (ตรวจสอบการสื่อสารที่ไม่เหมาะสม) และ Insider Risk Management (ตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงภายใน) ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรใหญ่ที่ต้องการความละเอียด

Data Governance: จัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบตั้งแต่ต้นจนจบ

Data Governance ช่วยให้คุณควบคุมวงจรชีวิตข้อมูล ตั้งแต่สร้าง จนเก็บรักษาและลบได้อย่างถูกต้อง มันไม่ใช่แค่เก็บข้อมูล แต่เป็นการทำให้ข้อมูลมีคุณค่าและปลอดภัย

ฟีเจอร์เด่นในแผน Enterprise:

  • Retention Policies: กำหนดระยะเวลาการเก็บข้อมูล เช่น เก็บอีเมล 7 ปีตามกฎหมาย แล้วลบอัตโนมัติ (มีใน E3/E5)
  • Records Management: จัดการเอกสารถาวร เช่น สัญญาหรือรายงานการเงิน ให้ไม่สามารถแก้ไขได้
  • Data Classification and Labeling: สแกนและติดป้ายข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อให้ทีมรู้ว่าอะไรสำคัญ

E3 vs E5: E3 ครอบคลุมพื้นฐานสำหรับการเก็บรักษา แต่ E5 มี Adaptive Protection (ปรับนโยบายตามพฤติกรรมผู้ใช้) และ Sensitivity Labels อัตโนมัติ ซึ่งช่วยองค์กรรัฐและเอกชนขนาดใหญ่จัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ดีกว่า

eDiscovery: ค้นหาและรวบรวมข้อมูลสำหรับการตรวจสอบทางกฎหมาย

eDiscovery คือเครื่องมือสำหรับการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีความหรือการตรวจสอบ เช่น รวบรวมอีเมลหรือไฟล์จาก Teams สำหรับการฟ้องร้อง มันช่วยให้คุณตอบสนองได้เร็วและถูกต้อง

ฟีเจอร์หลักๆ:

  • eDiscovery (Standard): สร้างเคส ค้นหาและ hold ข้อมูลจาก Exchange, SharePoint, OneDrive และ Teams (มีใน E3)
  • eDiscovery (Premium): เพิ่มการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น OCR สำหรับสแกน PDF, thread analysis สำหรับอีเมล และ custodian management (จัดการผู้ดูแลข้อมูล) เฉพาะใน E5

E3 vs E5: ถ้าธุรกิจคุณแค่ต้องการค้นหาพื้นฐาน E3 พอ แต่สำหรับการตรวจสอบใหญ่ๆ เช่น ransomware หรือคดีใหญ่ E5 ช่วยให้คุณ export ข้อมูลได้เร็วและละเอียดกว่า ด้วยฟีเจอร์ non-Office 365 ingestion ที่รองรับข้อมูลภายนอก

ยกระดับธุรกิจของคุณด้วยฟีเจอร์ Enterprise วันนี้

ฟีเจอร์ Compliance, Data Governance และ eDiscovery ใน Microsoft 365 Enterprise มันทรงพลังขนาดไหน โดยเฉพาะในแผน E5 ที่ครบครันกว่า E3 สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้บริหาร การลงทุนในเครื่องมือเหล่านี้ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจทำให้ธุรกิจสะดุดได้ ถ้าคุณใช้ E3 อยู่ ลองพิจารณา add-on E5 Compliance เพื่ออัปเกรดได้เลย หรือติดต่อทีมงาน TECHLAND เรายินดีช่วยตอบคำถามหรือแนะนำแผนที่เหมาะกับธุรกิจ

หากต้องการใช้งาน Microsoft 365 สามารถได้ทำอย่างไร ?

หากต้องการใช้งาน Microsoft 365 สามารถสอบถามกับทางเทคโนโลยีแลนด์ได้ เพราะเทคโนโลยีแลนด์เป็น Partner ที่ให้บริการ Microsoft 365 ราคาถูก รวมถึง Google Workspace ราคาถูกZoho Email Hosting และ Email Hosting

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจ

ให้คะแนนการให้บริการของเรา
[Total: 0 Average: 0]