ปัญหา IP Blacklist นั้นเป็นเพียงปลายเหตุของปัญหาแต่ปัญหาที่แท้จริงคือระบบไม่สามารถระงับการส่ง Spam ของ User ได้อย่างทันท่วงทีแบบ Realtime และทำให้ IP ติด Blacklist นั้นตามมา

ซึ่งจริงๆแล้วถึงแม้ว่า IP จะไม่ติด Blacklist ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพได้เช่นกัน เช่น พฤติกรรมการส่งของ User ซึ่งอาจจะหลบหลีกการติด Blacklist ได้แต่ทำให้ความน่าเชื่อถือของ IP นั้นหมดไป

ระบบส่วนใหญ่จะให้ User แจ้งไปและทำการเปลี่ยน IP ใหม่ในการส่งออกไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือมีระบบป้องกันการส่ง Spam แต่ไม่เร็วพอที่จะทำให้ไม่ติด Blacklist

หรือบางองค์กรที่เจอปัญหานี้ก็มักถามหา Private IP เพื่อคาดหวังว่า IP นั้นติด Blacklist ยากขึ้นแต่จริงๆ แล้วท่านไม่สามารถควบคุม User หรือคอมพิวเตอร์ User ที่ติดไวรัสและส่ง Spam ออกไปโดยที่ไม่รู้ตัวได้เลย

ปัญหาเหล่านี้มักไม่ได้รับการแก้ไขเพราะผู้ให้บริการส่วนใหญ่ใช้งานระบบ Outgoing Firewall ที่เหมือนๆกันเกือบทั้งหมดและการพัฒนานั้นเองนั้นใช้ต้นทุนที่สูงมากรวมถึงยังต้องใช้เวลาในการขายผลิตภัณฑ์อื่นนอกเหนือจาก Email ไปพร้อมๆกัน

เทคโนโลยีมีเทคโนโลยี AI ซึ่งใช้ Big Data จำนวนมากซึ่งสามารถคาดคะเนกิจกรรมการส่ง Spam ได้อย่างแม่นยำในระดับวินาทีซึ่งได้รับการยอมรับผลงานในระดับนานาชาติ [*1]

โดยระบบจะเทียบเคียงพฤติกรรมของ User กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างปกติ เมื่อพบว่าพฤติกรรมนั้นผิดปกติรุนแรงระบบจะทำการ Block ได้อย่างแม่นยำกว่าระบบอื่นๆที่จับข้อความใน Message

เทคโนโลยีแลนด์ยังมีระบบ Gateway Automation ซึ่งพนักงานจะสามารถเปลี่ยนแปลง IP ได้อย่าง Realtime หากพบว่า IP ที่ใช้อยู่มีปัญหาด้านเทคนิค

โดยระบบดังกล่าวยังสามารถ Matching พฤติกรรม Server ผู้รับ ทำให้การส่งไปยังปลายทางนั้นมีคุณภาพโดยเทียบเคียงกับคุณภาพการส่งก่อนหน้าและนี่คือระบบเดียวในประเทศไทย !