Q&A กฎ 3-2-1 สำหรับการสำรองข้อมูล

กฎ 3-2-1 คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

กฎ 3-2-1 คือหลักการง่ายๆ ในการสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหาย มันบอกว่าคุณควรมีข้อมูลอย่างน้อย 3 สำเนา, จัดเก็บในสื่อ 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน, และมีสำเเนาอย่างน้อย 1 ชุดอยู่นอกสถานที่ (Offsite) ครับ กฎนี้สำคัญมากเพราะช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลของคุณจะหายไปจากเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์เสีย, ภัยพิบัติ, หรือการโจมตีทางไซเบอร์ครับ

“3 สำเนาข้อมูล” หมายถึงอะไรบ้าง?

“3 สำเนาข้อมูล” หมายถึง:

  1. ข้อมูลต้นฉบับ: คือข้อมูลที่คุณกำลังใช้งานอยู่บนคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์
  2. สำเนาสำรองแรก: คือสำเนาที่ทำขึ้นจากข้อมูลต้นฉบับ มักจะเก็บไว้ในอุปกรณ์อื่นที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน เช่น External Hard Drive หรือ NAS
  3. สำเนาสำรองที่สอง: คือสำเนาอีกชุดที่ต้องเก็บไว้ในสถานที่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง (Offsite) เช่น บน Cloud Storage หรือเทปสำรองที่เก็บอยู่อีกอาคารหนึ่งครับ
ทำไมต้องมี “2 รูปแบบการจัดเก็บที่แตกต่างกัน”?

การมี 2 รูปแบบการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับสื่อจัดเก็บข้อมูลประเภทเดียวครับ เช่น ถ้าคุณสำรองข้อมูลลง External Hard Drive สองลูก แล้วทั้งสองลูกมาจากล็อตการผลิตที่มีปัญหาพร้อมกัน หรือมีไวรัสที่มุ่งเป้าทำลายฮาร์ดดิสก์ประเภทนั้น การมีรูปแบบอื่น เช่น สำรองลง NAS หรือ Cloud Storage จะช่วยให้คุณยังมีข้อมูลสำรองที่ปลอดภัยอยู่ครับ

ตัวอย่างของ “2 รูปแบบการจัดเก็บที่แตกต่างกัน” มีอะไรบ้าง?

ตัวอย่างที่พบบ่อยได้แก่:

  • ฮาร์ดดิสก์ (HDD/SSD) ร่วมกับ เทปแม่เหล็ก
  • ฮาร์ดดิสก์ (HDD/SSD) ร่วมกับ Cloud Storage
  • NAS (Network Attached Storage) ร่วมกับ External Hard Drive
  • USB Drive ร่วมกับ Online Cloud Drive
    การเลือกรูปแบบที่แตกต่างกันจะช่วยเพิ่มความทนทานต่อความล้มเหลวของสื่อจัดเก็บครับ
“1 สำเนาอยู่นอกสถานที่ (Offsite)” สำคัญอย่างไร?

การมี 1 สำเนาอยู่นอกสถานที่ (Offsite) คือ “ประกันชีวิต” ของข้อมูลคุณครับ มันป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสถานที่หลักทั้งหมด เช่น ไฟไหม้, น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, หรือแม้แต่การโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำลายข้อมูลในเครือข่ายภายในทั้งหมด หากข้อมูลสำรองทั้งหมดอยู่ในที่เดียวกัน คุณก็จะสูญเสียมันไปพร้อมกันนั่นเองครับ

วิธีการเก็บสำเนา Offsite ที่นิยมมีอะไรบ้าง?

วิธีที่นิยมที่สุดในปัจจุบันคือการใช้ Cloud Storage ครับ เช่น Google Drive, OneDrive, Dropbox, Amazon S3 เพราะสะดวกและผู้ให้บริการมักมีระบบความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทปแม่เหล็กหรือ External Hard Drive ที่นำไปเก็บไว้ในสถานที่อื่น เช่น สาขาของบริษัท หรือตู้เซฟนอกบ้านก็ได้ครับ

กฎ 3-2-1 ป้องกันการโจมตี Ransomware ได้จริงหรือ?

ได้ผลดีมากครับ! แม้ Ransomware จะเข้ารหัสข้อมูลต้นฉบับและสำเนาที่เชื่อมต่ออยู่ แต่ถ้าคุณมีสำเนาที่ “อยู่นอกสถานที่” (Offsite) และไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายตลอดเวลา (เช่น บน Cloud ที่มีการควบคุมการเข้าถึงที่ดี หรือเทปสำรองที่ถอดเก็บไว้) คุณจะยังสามารถกู้คืนข้อมูลกลับมาได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ครับ

บุคคลทั่วไป หรือแค่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้นที่ควรทำตามกฎ 3-2-1?

ทุกคนควรทำตามกฎ 3-2-1 ครับ! ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปที่มีรูปภาพครอบครัว, เอกสารสำคัญ หรือธุรกิจขนาดเล็กที่มีข้อมูลลูกค้าและข้อมูลการเงิน ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลมหาศาล การปฏิบัติตามหลักการนี้จะช่วยปกป้องข้อมูลอันมีค่าของคุณจากความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้เป็นอย่างดีครับ

นอกจากกฎ 3-2-1 แล้ว มีอะไรที่ควรทำเพิ่มเติมอีกไหม?

มีครับ! สิ่งสำคัญเพิ่มเติมคือ:

  • สำรองข้อมูลเป็นประจำ: กำหนดตารางการสำรองข้อมูลที่เหมาะสมกับปริมาณการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล
  • ทดสอบการกู้คืนข้อมูล: สิ่งนี้สำคัญมาก คุณต้องมั่นใจว่าข้อมูลที่สำรองไว้สามารถกู้คืนกลับมาใช้งานได้จริง
  • เข้ารหัสข้อมูลสำรอง: โดยเฉพาะข้อมูลที่ส่งขึ้น Cloud หรือเก็บไว้นอกสถานที่ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ
การลงทุนกับการทำตามกฎ 3-2-1 คุ้มค่าหรือไม่?

คุ้มค่ามากครับ! ลองคิดถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากข้อมูลสำคัญของคุณสูญหายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียเวลา, ค่าใช้จ่ายในการกู้คืน, หรือแม้แต่การสูญเสียธุรกิจ การลงทุนกับระบบสำรองข้อมูลตามกฎ 3-2-1 ถือเป็นการลงทุนที่ป้องกันความเสี่ยงและช่วยให้คุณอุ่นใจได้ในระยะยาวครับ

หวังว่า Q&A ชุดนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกฎ 3-2-1 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ! หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยครับ

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและเลือกแผนบริการที่เหมาะสม

พร้อมปกป้องข้อมูล Google Drive ของคุณแล้วหรือยัง?

Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]
Scroll to Top